เปรียบเทียบระบบผลิตน้ำ RO กับระบบกรองทั่วไป

 ผลิตน้ำดื่ม

การผลิตน้ำ เป็นกระบวนการสำคัญในการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อนำไปใช้ในการอุปโภค บริโภค และในเชิงอุตสาหกรรม โดยมีการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น ระบบกรองน้ำดื่ม ระบบผลิตน้ำบาดาล ระบบผลิตน้ำ RO (Reverse Osmosis) และระบบผลิตน้ำสำหรับโรงงาน ซึ่งแต่ละระบบมีการออกแบบให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และมาตรฐานคุณภาพน้ำที่ต้องการ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผลิตน้ำ

ถาม: ระบบผลิตน้ำดื่มมีแบบไหนบ้าง?
ตอบ:

• ระบบกรองน้ำดื่มทั่วไป เช่น กรองด้วยเซรามิก คาร์บอน
  
  

• ระบบกรองแบบ RO (Reverse Osmosis) ที่ได้มาตรฐานสูง
  
  

• ระบบผลิตน้ำแร่หรือเติมแร่ธาตุเพื่อสุขภาพ
  
  

ถาม: ผลิตน้ำใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างจากน้ำดื่มอย่างไร?
ตอบ: น้ำอุตสาหกรรมต้องออกแบบตามความต้องการของโรงงาน เช่น น้ำสำหรับผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง หรือน้ำสำหรับใช้ในระบบหม้อไอน้ำ ต้องผ่านกระบวนการกรองและปรับคุณภาพเฉพาะทาง

ถาม: ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบผลิตน้ำประมาณเท่าไหร่?
ตอบ:

• เครื่องกรองน้ำขนาดเล็กสำหรับครัวเรือน เริ่มต้น 5,000–20,000 บาท
  
  

• ระบบผลิตน้ำดื่มขนาดกลาง เช่น ร้านค้า เริ่มต้น 50,000–200,000 บาท
  
  

• ระบบผลิตน้ำสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อาจใช้เงินลงทุนตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิต
  
  

ถาม: ทำไมควรเลือกใช้บริการบริษัทผลิตน้ำมืออาชีพ?
ตอบ:

• ได้ระบบที่ออกแบบตรงตามการใช้งาน
  
  

• รับประกันคุณภาพน้ำตามมาตรฐาน
  
  

• มีบริการบำรุงรักษาและตรวจสอบคุณภาพน้ำ
  
  

• ลดความเสี่ยงเรื่องน้ำไม่ได้มาตรฐานหรือติดเชื้อ
  
  

ถาม: การผลิตน้ำดื่มขายต้องมีขั้นตอนอย่างไร?
ตอบ:

• ยื่นขออนุญาตจาก อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  
  

• ออกแบบระบบผลิตน้ำให้ได้มาตรฐาน
  
  

• ตรวจสอบคุณภาพน้ำตามเกณฑ์
  
  

• บรรจุภัณฑ์ต้องสะอาด ปลอดภัย และมีฉลากถูกต้อง
  
  

ข้อดีของการมีระบบผลิตน้ำคุณภาพ

1. ได้ใช้น้ำสะอาด ปลอดภัย
   
   

2. ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว แทนการซื้อน้ำดื่มบ่อย ๆ
   
   

3. เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ เช่น ผลิตน้ำดื่มขาย
   
   

4. ใช้ในอุตสาหกรรมได้อย่างมีมาตรฐาน
   
   

5. มั่นใจคุณภาพน้ำผ่านการกรองที่เหมาะสม